ประวัติความเป็นมา ไพ่นกกระจอกญี่ปุ่น

เกมไพ่นกกระจอกญี่ปุ่นในอดีต

ภาพถ่ายการเล่นเกมไพ่นกกระจอกในอดีต

เกมไพ่นกกระจอกญี่ปุ่น

เกมไพ่ที่เรียกได้ว่าเป็นตำนานที่อยู่คู่กับนักพนันมายาวนานหนึ่งในนั้นต้องมีชื่อว่า ไพ่นกกระจอก (Japanese Mahjong) อย่างแน่นอนซึ่งเชื่อว่าหากใครเป็นสายเล่นพนันต่างก็จะรู้จักและคุ้นเคยกันดีแต่บอกเลยว่าน้อยคนนักที่จะทราบว่าเกมไพ่ชนิดนี้นั้นมีหลากหลายประเภทด้วยกัน

วันนี้เราจะมาพูดถึงไพ่นกกระจอกญี่ปุ่นและได้นำเอากลยุทธ์และวิธีการเอาชนะเกมนี้มาให้ได้ศึกษากัน

ประวัติความเป็นมา

ชาวญี่ปุ่นเล่นไพ่นกกระจอก

ภาพถ่ายชาวญี่ปุ่นเล่นไพ่นกกระจอก ในปี พ.ศ. 2452

สำหรับไพ่นกกระจอกญี่ปุ่นในปี 1924 ทหารชื่อว่า Saburo Hirayma เป็นบุคคที่ได้นำเอาเกมนี้มายังเมืองโตเกียว ประเทศญี่ปุ่นซึ่งเขาได้เริ่มเล่นไพ่นกกระจอกคลับและเวลาผ่านไปได้ไม่นานทำให้เกมนี้ได้รับความนิยมอย่างแพร่และกลายเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว ต่อมาที่ได้มีการนำเอากฏเพิ่มเข้ามาอีกเพื่อเพิ่มความสนุกและความสลับซับซ้อนให้มากยิ่งขึ้นและในปี 2010 ไพ่นกกระจอกได้กลายเป็นหนึ่งในเกมบนโต๊ะที่ได้รับความนิยมสูงสุดในญี่ปุ่น

จากสถิติที่ผ่านมาในปี 2008 ที่ได้มีคนเล่นไพ่นกกระจอกประมาณ 7.6 บ้านคน โดยร้านค้าไพ่นกกระจอกราว ๆ 8900 ในประเทศที่สามารถทำยอดจำหน่ายได้ประมาณสามแสนล้านเยนในปี 2008 มีการ์ตูนและAnimation หลายเรื่องที่ได้ทุ่มเทให้กับเหตุการณ์ละครและการ์ตูนเกี่ยวกับเกมไพ่ชนิดนี้ วีดีโอกมอาร์เคดของญี่ปุ่นที่ได้มีการนำเสนอเครื่องเกมไพ่นกกระจอกที่จะสามารถคอนเนคกับคนอื่นๆ ได้ผ่านทาง Internet ได้ อีกทั้งยังมีเวอร์ชั่น วีดีโอเกมด้วย

เกมไพ่นกกระจอกประเทศญี่ปุ่นที่จะนิยมเล่นด้วยไพ่ 136 แผ่นผสมกับกระเบื้อง โดยที่จะจัดให้เป็นฝาผนัง 4 ชั้นแต่ละชั้นที่จะสูง 2 ชั้น กว้าง 17 แผ่น ,สแต็ค 26 อันที่ได้ถูกใช้เพื่อสร้างมือเริ่มของผู้เล่น 7 สแต็คที่ได้ถูกใช้สร้างกำแพงที่ตายแล้วและ 35 สแต็คที่จะใช้สร้างกำแพงการเล่น

โดยกระเบื้องที่จะมีทั้งหมด 34 แบบด้วยกันแบบละ 4 แบบ มีไพ่สามชุดพิน (วงกลม) ,โซ (ไผ่ ) ,วัน (นักแสดง),กระเบื้องเกียรติ ( honorjihai) โดยที่กระเบื้องเกียรติศักดิ์จะถูกแบ่งเสริมเติมช่วงระหว่างกระเบื้องลมและมังกร อีกทั้งกฏอะไรบางอย่างที่อาจจะมีไพ่สีแดงเลขลำดับ5 ที่จะดำเนินงานเป็นดอร่าที่ได้รับค่าฮันมากกว่าเว้นเพียงแค่กระเบื้องดอกไม้รวมทั้งฤดู สำหรับชื่อของกระเบื้องสูทที่จะเป็นไปตามลักษณะของ number + suit ที่เรียกได้ว่าเป็นตัวเลขที่ออกเสียงภาษาญี่ปุ่นและจีนที่ตรงกันด้วย

วิธีเล่น

วิธีเล่นไพ่นกกระจอก

ภาพการเล่นไพ่นกกระจอก

เริ่มต้นด้วยการที่ผู้เล่นจะทำการสับไพ่ทั้งหมดและวางไว้ในแถวหรือฝาผนังด้วยการคว่ำหน้าลง โดยเมื่อแจกไพ่เริ่มแล้วเจ้ามือก็จะถือไพ่ 1 ใบจากปลายกำแพง ทั้งนี้เจ้ามือสามารถชนะหรือทิ้งไพ่ที่ไม่ต้องการและผู้เล่นจะต้องเรียงไพ่ที่ถูกทิ้งในแถวเป็นลำดับเวลาด้านหน้าไพ่ของพวกเขา

จากนั้นเมื่อผู้เล่นทำการโยนกระเบื้อง ผู้เล่นคนอื่น ๆ ก็จะได้โอกาสรับมันและหากว่าพวกเขาสามารถใช้กระเบื้องเพื่อเล่นให้ครบชุด คนอื่นๆ ก็จะสามารถรับไพ่นี้ได้ก็ต่อเมื่อทำเซตเสร็จ โดยที่จะต้องหงายหน้าขึ้นและหากว่าชดนี้ถูกเปิดแล้วจะม่นับว่าเป็นส่วนหนึ่งส่วนใดของมือของผู้เล่นอีกต่อไปและด้วยเหตุนี้เองที่จะไม่สามารถเปลี่ยนหรือเขวี้ยงทิ้งได้

หลังจากการโยนและไม่มีผู้เล่นคนอื่น ๆ ถือสิทธิ์ การเล่นจะเป็นแบบทวนเข็มนาฬิกา โดยที่ผู้เล่นจะได้รับไพ่ 1 ใบจากกำแแพงและหากว่าผู้เล่นเรียกไทล์ เทิร์นจะสลับไปที่ผู้เล่นและเล่นต่อจากตำแหน่งนั้นผ่านผู้เล่นอื่นในเทิร์น ทั้งนี้การเล่นจะยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าผู้เล่นหนึ่งคนจะชนะหรือทำการแจกไพ่ทั้งหมดในกำแพงเว้นแต่เพียงว่า Dead Wall หรือ 14 แผ่นท้ายสุดในกำแพง

ในเรื่องที่เจ้ามือชนะหรือเหลือแค่ไพ่ 1 ใบที่จะชนะเพื่อการเสมอ โดยที่พวกเขาก็ยังคงเป็นเจ้ามือ ถ้าไม่อย่างนั้นผู้เล่นที่อยู่ด้านขวาของเจ้ามือก็จะถูกแปลงให้เป็นเจ้ามือคนต่อไปริอิจิ

โดยสำหรับสิ่งที่แยกไพ่นกกระจอกชนิดนี้ออกจากไพ่จำนวนอื่นเป็นriichi ซึ่งเป็นสาเหตุของชื่อสิ่งนี้เกิดขึ้นเมื่อผู้เล่นทั้งยังมือคว่ำหน้าหรือปิดรวมและอยู่ใน tenpai หากว่าสิ่งนี้เกิดขึ้นก็จะทำให้ผู้เล่นคนนั้นสามารถเรียกริอิจิได้ โดยในการเรียกแบบนี้ ผู้เล่นก็จะต้องเรียกแบบมีคุณภาพก่อนที่จะโยนไทล์ด้วยการวางแท่ง 1000 จุดไว้ด้านหน้าของพวกเขาโดยตรงและทำการหมุนกระเบื้องที่เขาทิ้งไปข้าง ๆ เพื่อตั้งเวลาที่ริอิจิถูกเรียก

หากว่ามีการโทร ผู้เล่นก็จะเล่นแบบอัตโนมัติและพวกเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ทำการเปลี่ยนมือในลักษณะอื่น ทั้งนี้ผู้เล่นก็จะต้องทำการจับไพ่ขึ้นมาและทิ้งมันไปหากไม่ใช่ไพ่ที่ชนะ พวกเขาสามารถทำการเปลี่ยนมือได้ก็ต่อเมื่อไทล์ที่วาดในเทิร์นไม่ใช้ไทล์ที่ชนะแต่จะสามารถทำการเปลี่ยนTripple ที่ปิดเป็น kan หรือ quad ได้ตราบเท่าที่มันไม่เปลี่ยนไพ่ที่พวกเขาจำต้องชนะ

การเอาชนะ

การที่จะชนะไพ่ชนิดนี้ได้ ผู้เล่นจะต้องกระทำ จั่ว เก็บ ทิ้ง ไพ่จนกว่าจะทำการเปิดชุดไพ่ให้ครบ 4 ชุดจากการเก็บไพ่ 3 แบบที่มีในเกม เช่น เฉ่า ,ผ่องใส ,กั่ง นอกจากนั้นในมือควรที่จะมีไพ่คู่ที่เรียกว่า หนั่ง อีก 1 คู่ถึงจะน็อคได้ หากเวลาที่น็อคผู้เล่นก็จะต้องพูดว่า "เหมาะสมเจี๊ยะ"

ชุดไพ่แต่ละแบบในเกม

ชุดไพ่ไพ่นกกระจอก

ชุดไพ่

1. เฉ่า คือ
ไพ่ชุดเรียงกัน 3 ตัว โดยจะเก็บได้จากไพ่ชนิดชุดจำนวนแค่นั้น การที่จะเฉ่าได้ก็จะต้องมีไพ่เรียงในมือ 2 ตัวแล้วคอยให้ผู้เล่นที่มีด้านสูงขึ้นยิ่งกว่าพวกเราทิ้งไพ่เรียงใบที่ 3ลงมา หากว่าเขาทิ้งตัวที่คุณรออยู่ลงมาให้เราพูดว่า เฉ่า เพื่อเป็นการเก็บไพ่ที่เขาทิ้งมาเป็นของเรา จากนั้นเปิดชุดไพ่เฉ่าที่เราเรียงเสร็จสมบูรณ์แล้ว

2. ผ่องแผ้ว คือ
ไพ่ชุด 3 ตัวหรือชดไพ่โคนงที่จะสามารถเก็บได้จากไพ่ทุกจำพวกตลอดตัวเลขรวมไปถึงตัวหนังสือ โดยการที่จะผุดผ่องได้ คุณก็ควรที่จะมีไพ่คู่ในมือ 2 ตัวและรอให้ผู้เล่นคนไหนก็ได้ทำการทิ้งไพ่ที่เช่นเดียวกันใบที่ 3ลงมาและเมื่อเขาทิ้งไพ่ตัวที่เรารออยู่มาให้เราพูดว่า ผ่องแผ้ว เพื่อเป็นการเก็บไพ่ที่เขาทิ้งมาเป็นของเราและก็เลยเปิดชุดไพ่ผ่องใสที่เรารวมมาเสร็จสมบูรณ์แล้ว

3. กั่ง คือ
ชุดไพ่ชุดเช่นกัน 4 ตัวที่เก็บได้จากไพ่ทุกหมวดหมู่ตลอดตัวเลขรวมไปถึงตัวหนังสือ โดยชุดไพ่กั่งสามารถที่จะทำการเก็บได้ 2 แนวทางร่วมกัน ในแบบแรกที่จะหมายถึง กั่ง ในเรื่องที่เราควรมีไพ่ที่เช่นเดียวกันในมือ 3 ตัวอยู่แล้วและรอให้ผู้เล่นคนกันแน่ก็ได้ ทำการทิ้งไพ่ที่เช่นเดียวกันอันที่4 ออกมา หากว่าผู้เล่นคนไหนกันแน่ก็ตามทิ้งไพ่ตัวที่ 4 ลงมาเราก็จะต้องพูดว่า กั่ง ที่จะมีความพิเศษเป็นเมื่อกั่งเสร็จ

โดยที่คุณจะสามารถทำการเปิดไพ่เพิ่มได้อีก 1 ตัวและสำหรับในแบบที่ 2 หมายถึง กั่ง ในเรื่องที่เรามีไพ่แบบเดียวกัน 3 ตัวในมือ เราก็จะสามารถทำการเปิดไพ่ตัวที่ 4 ขึ้นมาได้และต้องพูดว่า กั่งและทำการเปิดไพ่ เราจะสามารถทำการเปิดไพ่เพิ่มได้อีก 1 ตัวภายหลังกที่กั่งแล้ว

สรุป

ไพ่นกกระจอกเป็นหนึ่งในเกมไพ่ที่นำเข้ามาจากประเทศจีนก็จริงแต่กลับได้รับความนิยมไม่น้อยเลยทีเดียวในประเทศญี่ปุ่นจนได้มีไพ่นกกระจอกแบบญี่ปุ่นขึ้นมาแต่หากว่าเป็นในฝั่งของไทยเรานั้นก็เกมไพ่ประเภทนี้อาจจะยังไม่ค่อยเป็นที่ได้รับความนิยมมากเท่าไหร่นักแต่บอกเลยว่าเป็นอีกหนึ่งเกมที่สนุกไม่แพ้เกมพนันอื่นๆ แน่นอน